SENA THAILAND
0
  • หน้าแรก
  • สินค้า
  • ติดต่อเรา
  • ช่องทางการสั่งซื้อ
  • Support
  • VDO การใช้งาน
  • Home
  • 2018

Year: 2018

28 May

TVS เปิดตัว Apache RR 310 2019 อัพเกรดเสริมสลิปเปอร์คลัทช์มาให้ !

ทางค่าย TVS จากประเทศอินเดีย ได้ทำการปรับปรุงมอเตอร์ไซค์รุ่นเรือธงจากทางค่ายอย่าง Apache RR 310 สำหรับเวอร์ชั่นปี 2019 ที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสีสันภายนอกอย่างตัวขายที่เป็นสีดำล้วน Phantom Black ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนแปลงภายนอกแล้ว ยังมีการอัพเกรดอุปกรณ์อย่าง Slipper Clutch มาให้ด้วย

โดย Apache RR 310 นั้นเป็นรถมอเตอร์ไซค์เวอร์ชั่นสปอร์ตแฟริ่ง ที่ได้ใช้พื้นฐานมาจาก BMW G310R รถมอเตอร์ไซค์ที่เกิดจากความร่วมมือกันจากทั้งสองค่าย และฟีเจอร์สำคัญของเจ้า Apache RR 310 2019 ที่จะมาฟาดฟันกับคู่แข่งในท้องตลาดนั่นก็คือ ระบบ Slipper Clutch ที่จะช่วยป้องกันการเสียอาการ จากการสับเกียร์ลงเพื่อลดความเร็วในระยะเวลากระชั้นชิด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการขับขี่อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะการลดความเร็วแบบกระทันหันก่อนเข้าโค้ง

ในขณะที่ชุดสีนั้นจะมาเป็นแบบสีดำด้าน Phantom Black สำหรับตัวโปรโมท (และนอกจากนี้ยังมีสีแดงขาวด้วย) ซึ่งถือว่าเป็นชุดสีที่ให้ความโดดเด่นเป็นอย่างมาก กับรถในแนวเรซซิ่งอย่างนี้ และนอกจากนั้นแล้ว Apache RR 310 2019 ยังได้รับการอัพเดทกล่อง ECU ด้วย รวมไปถึงมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดอื่นๆ ของอุปกรณ์ติดรถอีกเล็กๆ น้อยๆ ด้วย โดยทาง CEO ของ TVS นั้นได้กล่าวว่าพวกเขารู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัวรถคันนี้เป็นอย่างมาก และก็มั่นใจว่ากลุ่มลูกค้าในปัจจุบันและลูกค้าใหม่ จะประทับใจกับการอัพเกรดประสิทธิภาพของตัวรถในครั้งนี้

ในขณะที่สเปกของตัวรถนั้นยังคงเป็นเครื่องยนต์ขนาด 312.2cc 1 สูบ 4 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 6 สปีด สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ 34 ตัว และทอร์คสูงสุด 27.3 นิวตันเมตร มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down และด้านหลังเป็นแบบโมโนโช้กของ KYB ยางของมิชลีนรุ่น Street Sport

ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก indianautosblog.com

ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก 
https://www.greatbiker.com/

Tags: Apache RR 310 2019, Phantom Black, Slipper Clutch, สลิปเปอร์คลัทช์
  • Posted on May 28, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
21 May

เป็นไปได้ว่า Kawasaki ZX-10RR ตัวใหม่จะมาในปี 2020



ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีกระแสข่าวลือของการเตรียมการรับมือการมาของ Ducati Panigale V4R ที่ถูกคาดหวังให้มาสร้างภาพจำใหม่ๆ และวางตัวให้เป็นรถของแชมป์โลก WSBK คนใหม่ในฤดูกาลนี้ ซึ่งทางผู้ที่ครองความยิ่งใหญ่ในเวทีนี้อย่าง Kawasaki เองก็เริ่มมีการตอบโต้ด้วยแผนการใหม่ ที่อาจจะใช้รูปแบบที่เหมือนกับแผนของ Ducati ที่ทำกับเจ้า V4R

2019 Kawasaki Ninja ZX-10RR

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าคงต้องรอกันไปอีกอย่างน้อยๆ ก็สัก 2-3 ปี กว่าเราจะได้เห็นโมเดลใหม่ของ ZX-10RR ที่จะสามารถต่อกรกับ V4R ได้ แต่ล่าสุด จากการยื่นเอกสารสำหรับการตรวจค่ามลพิษกับหน่วยงาน CARB (California Air Resouces Board) ที่ทางค่ายผู้ผลิตจะต้องยื่นใหม่ในทุกๆ ปีสำหรับการขายในปีต่อไป ซึ่งปกติแล้วเอกสารในการยื่นขอของ Kawasaki นั้น เจ้า ZX-10RR จะใช้เอกสารชุดเดียวกับ ZX-10R โมเดลปกติที่วางจำหน่าย แต่ในปีหน้า ทาง Kawasaki กลับยื่นเพียงเอกสารของเจ้า ZX-10R เพียงคันเดียวเท่านั้น

เป็นไปได้ว่าในปีนี้ Kawasaki อาจจะใช้ทีมงานในการระดมกำลังพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ของ ZX-10RR อยู่ โดยที่ในปีนี้ทางผู้ผลิตจะยังคงรูปแบบเดิมของ ZX-10R เพื่อขายต่อไปในปีหน้า เหมือนที่ Ducati ได้ทำกับ V4, V4S และ V4R ที่ยื่นเอกสารให้กับ CARB แบบแยกส่วน โดยที่ V4R นั้นจะเป็นโมเดลพิเศษที่จะต้องถูกตรวจสอบที่เข้มข้นกว่า V4และ V4S ในการวางจำหน่ายในอเมริกา



เหตุผลที่ชัดเจนมากที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือ เจ้าเครื่องยนต์ใหม่ของ ZX-10RR นั้นอาจจะมีการปรับตั้งค่าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งมันก็สอดคล้องกับการปล่อยไอเสียที่มากขึ้น ดังนั้น ZX-10RR มีความจำเป็นที่จะต้องแยกการยื่นเอกสารออกจาก ZX-10R ต่างหาก โดยเจ้า ZX-10R จะยังคงมาตรฐานเดิมจากโมเดลในปีก่อน แต่เจ้า ZX-10RR นั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงไปชนิดที่เราอาจจะคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

มีความเป็นไปได้ว่าช่วงปลายปีนี้เราอาจจะได้เห็นตัวต้นแบบของ Kawasaki ZX-10RR ตัวใหม่ที่งานใหญ่ประจำปีอย่าง EICMA Show 2019 ที่ประเทศอิตาลี และเป็นไปได้สูงมากที่มันจะถูกวางจำหน่ายในช่วงต้นปีเพื่อการลงทะเบียนใน WSBK2020 เหมือนกับที่ BMW และ Ducati ทำมาในช่วงปลายปีก่อน แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้อาจจะต้องขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาลของ WSBK2019 ด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก asphaltandrubber.com

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก  www.greatbiker.com

Tags: 2019 Kawasaki, 2020, Ducati Panigale V4R, Kawasaki ZX-10RR, V4R
  • Posted on May 21, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
08 May

Harley-Davidson แจ้ง Streetfighter 975 พร้อมขายในปี 2020.

จากที่เปิดตัวเป็นรถคอนเซ็ปท์มาก่อน กับ Harley-Davidson Streetfighter 975 ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างแรงโดยทันที เพราะถือว่าเป็นแนวทางที่ทางค่ายชื่อดังสัญชาติอเมริกันนั้น ยังไม่เคยทำมาก่อน โดยเฉพาะกับในคลาสนี้ และเชื่อว่าตัวรถเองนั้น จะสามารถเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ไม่ยาก เพราะมันมีความโมเดิร์นอยู่อย่างเต็มตัว และยังคงกลิ่นอายของรถ Harley ไว้ได้อย่างน่าสนใจด้วย

โดยตัวรถ Streetfighter 975 นั้นได้ถูกวางแนวทางไว้ให้เป็นรถแนวโมเดิร์นเนกเกต ที่ทางค่ายเองนั้นยังไม่เคยมีมาก่อน กับเครื่องยนต์ขนาด 975cc V-Twin ลูกใหม่เอี่ยม ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางค่ายเองนั้นได้เคยจัดเครื่องหมายทะเบียนการค้ากับรุ่นนี้ว่า Bronx แต่แล้วในระยะหลังๆ มานี้ก็ดูเหมือนว่าทางค่ายเองนั้นจะเลือกใช้ชื่อรุ่นว่า Streetfighter 975 เป็นชื่อที่จะใช้ทำตลาดอย่างเป็นทางการมากกว่า ซึ่งดูแล้วก็ถือว่าลงตัวกับตัวรถไม่น้อย

โดยภาพร่างล่าสุดสำหรับเวอร์ชั่นวางขายจริงที่เราเห็นกันนี้นั้น ถือว่ามีความแตกต่างไปจากตัวรถคอนเซ็ปท์ในหลายๆ ส่วนอยู่เหมือนกัน แม้ว่าภาพรวมแล้วจะยังคงเหมือนๆ กัน ที่มาในแนวดุดันและทันสมัย แต่ในอุปกรณ์อย่างหมุดยึดพักเท้าคนขี่นั้น ดูจะมีขนาดที่เล็กกว่าตัวคอนเซ็ปท์เล็กน้อย รวมไปถึงตำแหน่งของพักเท้าคนซ้อน ที่จะใช้หูยึดจากส่วนของซับเฟรม และซับเฟรมเองนั้นยังเป็นรูปร่างใหม่ด้วย ที่จะมีองศาและส่วนโค้งที่แตกต่างไปจากเดิม รวมไปถึงท่อรถที่จะมาในรูปแบบตัดเฉียง ในขณะที่งานส่วนของ body work และสวิงอาร์ม ก็ดูจะเป็นปรับดีไซน์ใหม่สำหรับเวอร์ชั่นวางขายจริง

และทางค่าย Harley-Davidson เองนั้นก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่า จะวางขายเจ้า Streetfighter 975 กันในปี 2020 และแน่นอนว่าประเทศไทยเราก็ถือว่ามีโอกาสสูงมากๆ ที่จะถูกใช้เป็นหนึ่งในฐานการผลิตหลัก โดยเฉพาะการทำตลาดในทวีปอาเซี่ยนรวมไปถึงบ้านเราเอง แฟนๆ ที่ชื่นชอบโมเดลนี้ก็อดใจรอกันอีกประมาณหนึ่งปี แล้วจะได้เจอกับเจ้าสุดหล่อคันนี้อย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก motorcycle.com
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก www.greatbiker.com

Tags: Bronx, Harley-Davidson, Streetfighter 975
  • Posted on May 8, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
08 May

ชมภาพ Fan Art ของ Ducati Panigale-E โดย Aritra Das

จากการให้สัมภาษณ์ของ Claudio Domenicali ซีอีโอของค่าย Ducati ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลี่ยน ในการพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าคันแรกของค่ายยังคงดำเนินต่อไป โดยที่กลุ่มแฟนบอยของทางค่ายก็ต่างรอคอยที่จะได้พบเจอกับรถพลังงานไฟฟ้าของ Ducati เป็นครั้งแรก แต่มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจากผู้ผลิตออกมาเลยแม้แต่น้อย

Ducati Panigale-E โดย Aritra Das

จากข้อมูลและความน่าจะเป็น สำหรับรถพลังงานไฟฟ้าคันแรกของ Ducati นั้นน่าจะออกมาในรูปแบบของรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่ง ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Ducati Panigale ซึ่งชื่ออย่างไม่เป็นทางการในตอนนี้คือ Panigale-E โดยล่าสุดทาง Aritra Das ศิลปิน Digital Art ที่เป็นหนึ่งในแฟนคลับของ Ducati ก็ได้รวมรวบข้อมูลและวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบของ Fan Art สำหรับเจ้า Ducati Panigale-E ในมุมมองของคนเอง

จากภาพเราจะเห็นได้ว่าการออกแบบโดยรวมนั้น ค่อนข้างที่จะอิงกับ Ducati Panigale 1299 อยู่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของแฟร์ริ่งด้านหน้า ที่ออกแบบดวงไฟมาในทรงเรียวเล็ก การเลือกใช้โทนสีแบบ Racing Red ที่เป็นสีประจำของทางค่าย ในส่วนโช้คอัพหน้าก็ได้เลือกใช้แบบมาจาก Ohlin FGT ปั้มเบรก Brembo พร้อมดิสก์เบรกหน้าคู่ ส่วนระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monoshock พร้อมกับหนึ่งเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์จาก Ducati ด้วยสวิงอาร์มหลังแบบแขนเดี่ยว หรือ Single Side Swingarm


ถาพรวมถือว่าเป็นการออกแบบที่ลงตัว และน่าสนใจเป็นอย่างมาก คราวนี้ขึ้นอยู่กับทาง Ducati แล้วว่า มีแบบในใจสำหรับเจ้า Panigale-E แล้วหรือยัง แต่ถ้ายังตามแบบของ Aritra Das ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.greatbiker.com

Tags: Ducati Ducati Panigale-E, DUCATIโฉมใหม่, Fan Art, Panigale-E, ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลี่ยน
  • Posted on May 8, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
07 May

New Kawasaki Ninja ZX-25R 4 สูบ 250cc ไม่พลาด ลุ้นผลิตไทยเต็มตัว อีก 2 ปีเจอกัน

หลังจากที่ทาง Honda เองนั้นได้สร้างกระแสกับการนำรถสปอร์ตเรพลิก้า 2 สูบคันเก่งอย่าง CBR250RR ทำตลาดกันในตอนนี้ ทางค่ายยักษ์เขียวเองนั้นก็ได้ลงมือพัฒนาอย่างเอาจริงเอาจัง กับรถในแนวทางเดียวกัน แต่จะมาในรูปแบบของเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง DOHC อย่างเจ้า ZX-25R ในคลาส 250cc

จากที่ทางเรานำเสนอข่าวมาก่อนหน้านี้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็ได้มีการยืนยันจากวงในว่า มันกำลังมีการจะผลิตออกมาวางจำหน่ายกันในอนาคตจริงๆ แต่นับจากนี้ก็อีกประมาณ 2 ปีเป็นอย่างเร็ว ที่เราถึงจะได้เห็นโมเดล New Kawasaki ZX-25R กัน ซึ่งประเทศไทยเรานั้น อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญของทางค่ายยักษ์เขียว มีการผลิตหลากหลายโมเดลออกจากบ้านเราไปยังตลาดโลก ดังนั้นเจ้า ZX-25R 4 สูบคันนี้ก็บอกได้เลยว่ามีโอกาสที่จะเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่จะผลิตกันในบ้านเราด้วย

มีการคาดการณ์จากข้อมูลวงในว่าเจ้า Ninja ZX250R 4 สูบเรียงคันใหม่นั้น จะเป็นเครื่องยนต์แบบ DOHC 4 วาล์ว ให้แรงม้ามาสูงสุดมากถึง 45 ตัว และทอร์คหรือว่าแรงบิดอยู่ที่ 24.5 นิวตันเมตร ตรงนี้จะเห็นได้ว่าการใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงนั้น จะทำให้ตัวรถสามารถรีดแรงม้าได้มากกว่าแบบ 2 สูบอย่าง Ninja 250 ตัวปัจจุบันที่มีแรงม้าอยู่ที่ 39 ตัวเป็นอย่างมาก และรอบสูงสุดของตัวรถจะมากถึง 19,000 รอบต่อนาที แต่ตัวเลขทั้งหมดนี้ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนแต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องราคาของตัวรถนั้น ทางแหล่งข่าวแจ้งว่ามีโอกาสที่จะอยู่ในช่วงสองแสนปลายๆ ซึ่งกรณีนี้อาจจะทำให้มันดูแพงสำหรับรถในคลาส 250cc แต่จะต้องอย่าลืมว่า New Kawasaki ZX-25R นั้นจะเป็นรถที่มาในรูปแบบของสปอร์ตเรพลิก้าแบบเต็มตัว เช่นเดียวกันกับ ZX-6R และ ZX-10R รุ่นพี่ ดังนั้นเชื่อว่านอกจากจะมีเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแล้ว จะยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ติดตั้งมาให้สมกับรหัส ZX ของทางค่ายอีกด้วย ตรงนี้จะต้องรอติดตามกันต่อไปให้ดี ถึงจะอีก 2 ปีข้างหน้า แต่นับจากนี้ไปเชื่อว่าจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหลุดออกมาระหว่างทางอีก

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก iwanbanaran.com motorplus-online.com young-machine.com

  • Posted on May 7, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
04 May

ดีลเลอร์ Kawasaki ส่งสัญญาณ New Ninja ZX250R 4 สูบ มีจริง!

จากที่มีกระแสข่าวลือมาอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับโมเดลรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตแฟริ่งแบบ 4 สูบเรียงในคลาส 250cc จากทาง Kawasaki ที่ถือว่าได้รับความสนใจจากเหล่าไบค์เกอร์เป็นจำนวนมาก เพราะในยุคนี้เรายังไม่เคยเห็นรถในคลาส 250cc แบบ 4 สูบจากทางค่ายหลักๆ โดยเฉพาะจากทางฝั่งญีปุ่นมาก่อน จะมีก็แต่ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว และล่าสุดก็ได้มีการรายงานข่าวว่าทางดีลเลอร์ของทาง Kawasaki เจ้าหนึ่งได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้แล้ว

ทางเว็บไซต์ Iwanbanaran.com จากทางประเทศอินโดนีเซียได้รายงานข่าวว่า พวกเขาเองได้รับข้อมูลจากดีลเลอร์วงในของ Kawasaki เจ้าหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ผู้ไม่ประสงค์ออกนามเกี่ยวกับโมเดล New Ninja ZX250R ว่าโมเดลนี้กำลังถูกพัฒนาอยู่จริง ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้ “ด้วยความเคารพเกี่ยวกับกระแสข่าวลือของทาง New Kawasaki Ninja 250cc แบบ 4 สูบนั้นเป็นความจริง แต่ว่าเราจะต้องรออีกประมาณ 2 ปีถึงจะได้เห็นตัวเป็นๆ กัน และราคาค่าตัวของมันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 130 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย (หรือประมาณสองแสนปลายๆ เมื่อเทียบเป็นเงินบาทไทย) นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ผมสามารถให้ได้ในตอนนี้”

ประกอบกับข่าวก่อนหน้านี้จากทาง MOTOR Plus-online.com ที่ได้รายงานข้อมูลว่า New Ninja ZX250R นั้นจะมีแรงม้าสูงสุดถึง 45 ตัว ทอร์คหรือว่าแรงบิดอยู่ที่ 24.5 นิวตันเมตร และรอบสูงสุดหรือว่าเรดไลน์สูงมากถึง 19,000 รอบต่อนาที ซึ่งอ้างอิงว่าเป็นข้อมูลที่หลุดออกมาจากทางโรงงานผลิตของ Kawasaki Indonesia ซึ่งหากว่าจะเป็นไปตามนี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่จัดจ้านเอามากๆ และมันจะโดดเด่นออกมาจากรถคันอื่นๆ ในคลาส 250cc อย่างเห็นได้ชัด

สำหรับฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวรถที่ถูกคาดการณ์นั้น เชื่อว่าน่าจะมีการใส่ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down มาให้กับตัวรถ และมีระบบอย่าง Slipper Clutch มาให้พร้อมกับระบบเบรก ABS แต่พวกระบบอื่นๆ อย่าง Traction Control หรือคันเร่งไฟฟ้านั้น จะต้องไปลุ้นกันอีกทีว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่น่าจะจัดเต็มให้สมกับที่เป็นรถสปอร์ตเรพลิก้าแบบเต็มตัวของทางค่าย ซึ่งคาแรกเตอร์ของเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงในคลาสประมาณ 250cc นั้น ปกติแล้วแรงบิดในย่านความเร็วต้นมักจะไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ แต่จะไปแสดงพลังได้อย่างชัดเจนในย่านความเร็วกลางถึงปลายที่จะไหลได้ลึกเอามากๆ

มาถึงตรงนี้แล้วถือว่ามีข้อมูลของตัวรถที่ถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ และเริ่มที่จะต่อเนื่องและคืบหน้ากันในช่วงนี้ แต่ทางเรายังอยากให้เพื่อนๆ ใช้วิจารณญาณส่วนตัว ในการวิเคราะห์และติดตามข่าวนี้กันเหมือนเดิม จนกว่าจะมีทิศทางหรือการให้สัมภาษณ์ที่ชัดเจนกว่านี้จากทาง Official ของ Kawasaki แต่ความเห็นส่วนตัวของทางทีมงาน GreatBiker ก็มองว่ามีความเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้ทาง Kawasaki ก็เคยผลิตรถแบบนี้ในอดีตมาแล้ว และช่วงประมาณ 2 ปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ทำแบบสำรวจเกี่ยวกับประเด็นเครื่องยนต์แบบ 250cc 4 สูบว่ามีความต้องการโมเดลนี้กันหรือไม่ และระยะเวลาอีกประมาณ 2 ปีนับจากนี้ก็ถือว่าเป็นไทม์ไลน์ที่สมเหตุสมผลเลยทีเดียว หากว่าจะมีการเปิดตัว New Kawasaki Ninja ZX250R กันในเวลานั้นจริงๆ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก iwanbanaran.com motorplus-online.com young-machine.com
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก www.greatbiker.com

Tags: Kawasaki, New Kawasaki Ninja, ZX250R
  • Posted on May 4, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
02 May

Triumph ประกาศเตรียมเปิดตัว All New Rocket III 2,458cc 3 สูบ ใหญ่สุดในโลก

งานนี้เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาในชั่วข้ามคืนทันที เมื่อทางค่ายยักษ์ใหญ่จากฝั่งผูัดีอังกฤษอย่าง Triumph ได้ทำการประกาศเตรียมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันล่าสุดจากทางค่าย อย่างเป็นทางการผ่านในหน้าเว็บไซต์หลักของตัวเองอย่างเจ้า All New Triumph Rocket III TFC ที่มาพร้อมกับความจุขนาด 2,458cc แบบ 3 สูบ ซึ่งถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบโปรดักชั่นวางขายจริง ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก

ด้านขุมกำลังของ All New Rocket III TFC นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2,458cc แบบ 3 สูบ ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 170 ตัว และแรงบิดหรือว่าทอร์คที่ถือว่ามากที่สุดในโลกที่ 221 นิวตันเมตรด้วยกัน ตัวรถมีการติดตั้งระบบควบคุมแบบอิเลคทรอนิกล่าสุด อย่างระบบ Cornering ABS ช่วยควบคุมการทำงานของระบบเบรก ABS ในขณะเข้าโค้ง, Traction Control ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, โหมดการขับขี่ 4 โหมดประกอบไปด้วย Road (ถนนปกติ) Rain (ขณะฝนตก) Sport (เน้นความแรงแบบสุดขีด) และ Riders Set (ปรับแต่งตามใจผู้ขับขี่), และยังมีระบบครูซคอนโทรล ล็อกความเร็วของคันเร่งยามขับขี่ออกทริป, ระบบกุญแจรีโมท, ระบบควิกชิฟเตอร์ทั้งเพิ่มและลดเกียร์

ตัวรถ All New Rocket III TFC นั้นมีการรีดน้ำหนักตัวให้ลดลงกว่าโมเดลก่อนหน้านี้ถึง 15% ด้วยกัน ด้วยการเปลี่ยนมาใช้เฟรมแบบอลูมิเนียม โปรอาร์มด้านหลัง และงานคาร์บอนในส่วนของตัวบอดี้ ซึ่งตรงนี้เองจะส่งผลต่อความแรงที่มากขึ้นของตัวรถ และความคล่องตัวยามใช้งานอย่างชัดเจน ในขณะที่ระบบกันสะเทือนด้านหน้านั้น จะเป็นของ Showa ขนาด 47mm แบบหัวกลับ ส่วนด้านหลังเป็นแบบโมโนโช้กที่สามารถปรับระดับได้ ปั้มเบรกเป็นของ Brembo

ราคาเริ่มต้นของ All New Rocket III TFC นั้นอยู่ที่ £25,000 หรือประมาณ 1,043,000 บาท และมีการผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียงแค่ 750 คันทั่วโลกเท่านั้น ส่วนการเปิดตัวคันเป็นๆ อย่างเป็นทางการนั้นทางค่ายแจ้งว่า ในอีกอึดใจเดียวเท่านั้น

ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก triumphmotorcycles.co.uk young-machine.com
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก www.greatbiker.com

Tags: All New Rocket III, All New Rocket III TFC, Brembo, Showa
  • Posted on May 2, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
02 May

All New Honda CBR คลาส 1000 คันใหม่ หลุดข้อมูลล่าสุด เตรียมเปิดตัวปลายปี 2019

จากที่มีกระแสข่าวของโมเดลรถสปอร์ตแฟริ่งคลาส 1,000cc คันใหม่จากทาง Honda ออกมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ที่นอกจากจะเป็นการพัฒนาออกมาเพื่อวางขายกันในตลาดโลกแล้ว ยังเป็นการที่จะนำไปใช้ในการแข่งขันรายการ World Super Bike กันอีกด้วย และล่าสุดก็ได้มีความคืบหน้าจากภาพร่างในการจดสิทธิบัตรออกมาแล้ว ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว


จากภาพร่างในการจดสิทธิบัตร สำหรับส่วนของชุดแฟริ่งและชิ้นส่วนด้านหน้ารถนั้น หากสังเกตดูให้ดีๆ จะพบว่าบริเวณปลายกระจกทั้งด้านซ้ายและขวานั้น จะมีชิ้นส่วนคล้ายๆ ปีกหรือครีบเป็นจงอยยื่นออกมาด้านบน นั่นก็เท่ากับว่านอกเหนือจากความเป็นไปได้ของการติดตั้ง Winglet หรือว่าปีกบริเวณแฟริ่งของตัวรถแล้ว CBR คันใหม่นั้นก็จะมีการติดตั้ง Winglet ขนาดเล็กในส่วนกระจกมองหลังด้วย โดยประโยชน์ของมันก็คือช่วยในการแหวกอากาศให้มีความไหลลื่นมากที่สุด ตามหลักการอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) นั่นเอง


แม้ว่าในการแข่งขันจริงนั้น เราจะต้องถอดกระจกมองข้างออก แต่สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไปเจ้าปีกหรือครีบปลายกระจกนั้น ก็จะช่วยให้ตัวรถแหวกลมและทำความเร็วได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลอื่นๆ ของโมเดลนี้ ที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ก็จะมีในเรื่องของระบบกันสะเทือนหน้าแบบปรับไฟฟ้า แรงม้าที่อาจจะไปเตะที่หลัก 220 ตัว ด้วยขนาดของกระบอกสูบที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงเรื่องของการติดตั้งแรมแอร์กลางตัวรถ และระบบกระเดื่องกดวาล์วแบบใหม่ ที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม แต่จะทำให้เครื่องยนต์นั้นหมุนได้ปลอดภัยและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์ว่า Honda CBR ในคลาส 1,000 คันใหม่นั้นจะเปิดตัวสู่สาธารณชนในช่วงปลายปี 2019 นี้ที่งานใหญ่ระดับโลกอย่าง EICMA (โดยอาจจะมีตัวต้นแบบโชว์ในงาน Tokyo Motor Show กันก่อน) ก่อนจะวางขายจริงกันในปี 2020 ต่อไป

ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก young-machine.com morebikes.co.uk

Tags: All New Honda CBR, All New Honda CBR คลาส 1000, Honda CBR, World Super Bike
  • Posted on May 2, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
27 Apr

New Yamaha XSR155 เตรียมลุยตลาด ลุ้นขายบ้านเราเต็มตัว

จากกระแสข่าวเชิงลึกที่ได้คาดการณ์การเตรียมการเปิดตัวรถรหัสใหม่ของ Yamaha อย่าง New XSR155 นั้น ทำให้หลายฝ่ายเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวกันอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งตัวรถคันนี้เองนั้นจะเป็นน้องเล็กสุดของตระกูล XSR เพื่อจะเข้าสู้กับคู่แข่งอย่าง Honda CB150R ในอนาคตนี้ และนับว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่มีโอกาสขายในบ้านเราอย่างเต็มตัวด้วย

ดังนั้นก็เท่ากับว่าระบบกันสะเทือนหน้านั้น จะมาเป็นแบบหัวกลับ Upside Down ด้านหลังเป็นแบบโมโนโช้ก พร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 155 cc 1 ลูกสูบแบบไดอะซิล 4 วาล์ว และถ้าจะยกเอาตัวเลขของ All New MT-15 ก็จะเท่ากับว่ามันจะให้แรงม้าสูงสุดมาที่ 19 hp @ 8.900 rpm และแรงบิดสูงสุด 14.7 Nm @ 7.000 rpm พร้อมกับระบบวาล์วแปรผัน VVA ซึ่งระบบนี้ จะช่วยทำให้รถมีแรงบิดและกำลังของเครื่องยนต์มีสมรรถนะดี ทั้งช่วงความเร็วรอบต่ำ กลางและสูง และมีโอกาสที่จะติดตั้งฟีเจอร์อย่าง Assist & Slipper Clutch ตัวป้องกันท้ายปัดขณะเปลี่ยนเกียร์แบบแรงๆ มาให้ด้วย

New Yamaha XSR155 คาดว่าจะใช้อินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตหลักเช่นเคย ก่อนจะส่งออกไปวางจำหน่ายยังต่างประเทศ รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย โดยเรื่องของราคาตัวรถ หากว่ามีการเปิดตัวออกมากันจริงๆ ก็น่าจะมีความใกล้เคียงกันกับ MT-15 ซึ่งเชื่อว่าทางค่าย Yamaha เองน่าจะพยายามคุมราคาให้ไม่เกิน 100,000 บาท หากว่ามีความคืบหน้าในเรื่องของช่วงเวลาในการเปิดตัว ทางเราจะรีบนำเสนอกันโดยเร็วอีกครั้ง

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://julaksendiedesign.wordpress.com/
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.greatbiker.com/

Tags: Honda CB150R, New Yamaha, XSR155, Yamaha, Yamaha XSR155
  • Posted on April 27, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0
26 Apr

Suter MMX500 สุดยอดรถ 2 จังหวะ สูบ V4 576cc

ต้องยอมรับว่าเสน่ห์ของเครื่องยนต์แบบสองจังหวะยังคงเป็นที่น่าหลงใหลไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไบค์เกอร์รุ่นเก๋าที่ชื่นชอบในคาแรกเตอร์ของมัน ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้จะไม่ค่อยมีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์แบบนี้ออกมาวางขายกันแล้ว ทางเราเลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับรถมอเตอร์ไซค์สองจังหวะ ที่ถือว่ามีความทันสมัยและมีการผสมผสานเทคโนโลยีทั้งเก่าและใหม่เข้าด้วยกันกับเจ้า Suter MMX500!!!

Suter MMX500 ให้รอบเครื่องยนต์สูงสุดถึง 13,000 รอบต่อนาที ให้พละกำลังสูงสุด 195 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบวาล์วไอเสียแบบ Double Flap Electronic Control ท่อไอเสีย Akaprovic ผลิตจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา ชุดส่งกำลังชุดเกียร์ของ SRT แบบ 6 สปีด Cassette Gearbox ระบบคลัทซ์แบบแห้ง Multi Disc Dry ระบบสมองกล Metronic ECU โครงสร้างแบบอลูมิเนียม Twin Spar ที่สามารถปรับระยะช่วงล้อ ช่วงแฮนด์ ความสูงได้อย่างอิสระ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับจากแบรนด์ Ohlins ระบบกันสะเทือนหลังแบบเดี่ยวที่สามารถปรับสปริง Pre-Load และระยะยุบตัวได้อย่างเต็มที่ วงล้อจากแบรนด์ OZ-Racing ผลิตจากแม๊กนิเซียมอัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์คู่ขนาด 320 มิลลิเมตร ปั้มเบรก Brembo แบบ 4 พอร์ต ระบบเบรกหลังแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 218 มิลลิเมตร ปั้มเบรก 2 พอร์ต ชิ้นส่วนแฟร์ริ่งผลิตจากวัสดู Carbon Fiber น้ำหนักเบา เช่นเดียวกับถังน้ำมันที่ผลิตมาจาก Carbon Fiber ทำให้ตัวรถนั้นมีน้ำหนักที่เบาเพียง 127 กิโลกรัมแบบไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง

สำหรับเจ้า Suter MMX500 นั้นจะมีการผลิตเพียง 99 คันทั่วโลก มีการวางราคาไว้ที่ 123,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.9 ล้านบาท ซึ่งการผลิตนั้นจะต้องมีการสั่งจอง และต้องเข้าไปที่โรงงานประกอบเพื่อทำการวัดขนาดตัวผู้ขับขี่ให้ทางผู้ผลิตได้วางระยะของโครงสร้างให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่ เพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ SUTER ได้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.greatbiker.com/

  • Posted on April 26, 2019
  • Categories: บทความมอเตอร์ไซค์
0

 

1 2 Next

Categories

  • บทความมอเตอร์ไซค์ (11)
  • รีวิว (1)
  • ไม่มีหมวดหมู่ (1)

[vc_row full_width=”stretch_row” css=”.vc_custom_1522378534352{padding-top: 60px !important;padding-bottom: 30px !important;background: #f6f6f6 url(http://www.senathailand.com/wp-content/uploads/2018/03/footer-bg-1.jpg?id=1273) !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c025e7d”][vc_column width=”1/2″ css=”.vc_custom_1529547195757{padding-bottom: 30px !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c025ede” offset=”vc_col-md-3″ width_rows_desktop=”30.7692308″ width_rows_ipad=”50″ width_rows_mobile=”100″ hidden_markup=””][vc_single_image image=”2942″ img_size=”full” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c025f22″ css=”.vc_custom_1529547063599{margin-bottom: 34px !important;}” hidden_markup=”” css_mobile=”.vc_custom_1529547063616{margin-bottom: 20px !important;}”][ecome_iconbox style=”style2″ type=”ecomecustomfonts” icon_ecomecustomfonts=”flaticon-placeholder” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c025f64″ text_content=”45 Grand Central Terminal New York,NY 1017
United State USA”][ecome_iconbox style=”style2″ type=”ecomecustomfonts” icon_ecomecustomfonts=”flaticon-phone-call” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c025fa7″ text_content=”(+123) 456 789 – (+123) 666 888″][ecome_iconbox style=”style2″ icon_fontawesome=”fa fa-envelope-o” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c025fe9″ text_content=”Contact@yourcompany.com”][ecome_iconbox style=”style2″ type=”ecomecustomfonts” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026027″ icon_ecomecustomfonts=”flaticon-clock” text_content=”Mon-Sat 9:00pm – 5:00pm Sun : Closed”][ecome_socials socials=”1,2,3,4″ title=”Follow us” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026065″ css=”.vc_custom_1529547084930{padding-top: 32px !important;}” hidden_markup=”” css_mobile=”.vc_custom_1529547084944{padding-top: 20px !important;}”][/vc_column][vc_column width=”1/2″ css=”.vc_custom_1529547181406{padding-bottom: 30px !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c0260a2″ offset=”vc_col-md-3″ css_mobile=”.vc_custom_1529547181422{padding-bottom: 30px !important;}” css_ipad=”.vc_custom_1529547181418{padding-bottom: 93px !important;}” width_rows_desktop=”19.5804196″ width_rows_ipad=”50″ width_rows_mobile=”100″ hidden_markup=””][ecome_custommenu nav_menu=”quick-menu” title=”Quick Menu” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c0260e3″][/vc_column][vc_column width=”1/2″ css=”.vc_custom_1520315152549{padding-bottom: 30px !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026126″ offset=”vc_col-md-2″ width_rows_desktop=”19.2307692″ width_rows_ipad=”50″ width_rows_mobile=”100″][ecome_custommenu nav_menu=”customer-service” title=”Customer Service” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026165″][/vc_column][vc_column width=”1/2″ css=”.vc_custom_1520315756966{padding-bottom: 30px !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c0261a3″ offset=”vc_col-md-4″ width_rows_desktop=”30.4195804″ width_rows_mobile=”100″ width_rows_ipad=”50″][vc_raw_html ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c0261e2″]JTNDZGl2JTIwY2xhc3MlM0QlMjJmb290ZXItaG90bGluZSUyMiUzRSUwQSUzQ2gzJTNFSG90bGluZSUzQyUyRmgzJTNFJTBBJTNDcCUzRUNhbGwlMjBVcyUyMHRvbGwlMjBGcmVlJTNDJTJGcCUzRSUwQSUzQ2g2JTNFJTI4JTJCMTIzJTI5JTIwNDU2JTIwNzg5JTIwb3IlMjAlMjglMkIxMjMlMjklMjA2NjYlMjA4ODglM0MlMkZoNiUzRSUwQSUzQyUyRmRpdiUzRQ==[/vc_raw_html][ecome_newsletter ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026224″ title=”Subscription” desc=”Register now to get updates on promotions
and coupons.”][/vc_column][/vc_row][vc_row full_width=”stretch_row” css=”.vc_custom_1520266354299{padding-top: 19px !important;padding-bottom: 27px !important;background-color: #272727 !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026269″][vc_column css=”.vc_custom_1520266920869{padding-top: 5px !important;padding-bottom: 5px !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c0262a8″ offset=”vc_col-md-6″][vc_custom_heading text=”© 2010-2018 E-come.com. All rights reserved.” font_container=”tag:p|font_size:12|text_align:left|color:%23f6f6f6″ use_theme_fonts=”yes” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c0262e8″ css=”.vc_custom_1521554838528{margin-bottom: 0px !important;padding-top: 10px !important;padding-bottom: 10px !important;}” responsive_font_ipad=”text_align:center” responsive_font_mobile=”text_align:center”][/vc_column][vc_column css=”.vc_custom_1520266935837{padding-top: 5px !important;padding-bottom: 5px !important;}” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c026328″ offset=”vc_col-md-6″][vc_single_image image=”1254″ img_size=”full” alignment=”right” ecome_custom_id=”ecome_custom_5b2b09c02636b” responsive_font_desktop=”text_align:right” responsive_font_ipad=”text_align:center” responsive_font_mobile=”text_align:center”][/vc_column][/vc_row]